คู่มือวางแผนธุรกิจโรงแรม สำหรับผู้เริ่มต้น

แผนธุรกิจโรงแรม คืออะไร?

แผนธุรกิจโรงแรม คือ แผนงานพร้อมรายละเอียดสำหรับโปรเจคโรงแรมต่างๆ ที่เขียนออกมาอย่างเป็นทางการ โดยสรุปกำหนดการทุกอย่างไว้อย่างครบถ้วน เช่น จุดประสงค์ ตลาดกลุ่มเป้าหมายเพื่อต่อยอดไปยังการผลิตสินค้าและบริการ รวมถึงกลยุทธ์การตลาดเพื่อธุรกิจโรงแรมและงบประมาณทางการเงิน กลยุทธ์การบริหารโรงแรมถือเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักบริหารมือใหม่ เพราะตัวแผนธุรกิจโรงแรมมาพร้อมกับความน่าเชื่อถือ ให้รายละเอียดชัดเจนเพื่อเพิ่มผลกำไรและประสบความสำเร็จในระยะยาว การสร้างแผนธุรกิจนั้น สามารถช่วยให้คุณเข้าใจจุดประสงค์การทำงานได้ง่ายขึ้น ว่าคุณต้องทำอะไรบ้างเพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ และช่วยให้เห็นภาพวิธีการดำเนินการเพื่อให้โปรเจคต่างๆ ประสบความสำเร็จ

บทความกลยุทธ์วางแผนธุรกิจโรงแรมของเราวันนี้ จะมาช่วยไขข้อสงสัยว่าเพราะอะไรการวางแผนกลยุทธ์ hotel marketing ที่ดีถึงสำคัญ พร้อมบอกสิ่งที่จำเป็นต่อการวางแผนบริหารโรงแรม และวิธีเริ่มต้นวางแผนธุรกิจง่ายๆ สำหรับนักบริหารมือใหม่ทุกคน

ทำไมการวางแผนธุรกิจโรงแรมถึงสำคัญ?

การทำงานไปเรื่อยๆ อาจจะไม่มีอะไรต้องกังวลมากนัก หากคุณเพียงแค่กำลังประกอบเฟอร์นิเจอร์ Flat-Pack หรือเริ่มงานอดิเรกใหม่ๆ แต่สำหรับโลกการบริหารธุรกิจแล้ว มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

การเขียนแผนธุรกิจเป็นที่ควรทำโดยไม่ต้องคิดมากเลย มีเหตุผลมากมายที่คุณควรให้เวลากับการวางแผนธุรกิจโรงแรมให้เป็นแบบแผน 

เพราะแผนธุรกิจโรงแรมสามารถช่วยคุณได้หลายเรื่อง เช่น:

• ช่วยให้คุณเห็นภาพว่าไอเดียที่คิดเป็นสิ่งที่ต้องการจริงๆ หรือไม่
• ช่วยในการตัดสินใจว่าสิ่งไหนที่ควรทำเพื่อขยายธุรกิจให้เติบโต
• สามารถใช้โน้มน้าวพาร์ทเนอร์ให้มาร่วมธุรกิจกับคุณได้
• เพิ่มความมั่นใจและพิสูจน์ให้ตัวเองเห็นว่าธุรกิจสามารถประสบความสำเร็จได้
• ควบคุมธุรกิจได้มากขึ้นและช่วยจัดลำดับความสำคัญแต่ละขั้นตอนเพื่อไปสู่ความสำเร็จ
• ช่วยประเมินว่าคุณอยู่ในจุดที่ต้องการตามเส้นทางแล้วหรือยัง

ส่วนใหญ่แล้ว แผนธุรกิจโรงแรมจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้นเมื่อถึงเวลาดำเนินการจริง มีรายงานผลแสดงให้เห็นว่า การมีกลยุทธ์ธุรกิจที่ดีสามารถช่วยให้ธุรกิจเติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็วถึง 30% และสามารถป้องกันความล้มเหลวในอนาคตได้

มาเริ่มต้นวางแผนธุรกิจกัน

สิ่งที่เราอยากจะบอกตรงนี้คือให้เริ่มวางแผนธุรกิจอย่างจริงจัง ไม่ใช่เพียงแค่อ่านผ่านๆ พยักหน้าเห็นด้วยว่าเป็นแผนการที่ดี แต่เขียนแผนธุรกิจออกมาอย่างคลุมเครือ ไม่ชัดเจน

ดังนั้น มาเริ่มขั้นตอนแรกกันตอนนี้เลย! โดยเริ่มจากการจดประเด็น 4 ส่วนที่สำคัญที่สุดของการเขียนแผนธุรกิจโรงแรมกันก่อน:

สรุปข้อมูลธุรกิจและภาพรวม

ข้อมูลสรุปพร้อมภาพรวมต่างๆ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการเขียนแผนธุรกิจ แต่จะง่ายต่อการเขียนเมื่อสิ้นสุดกระบวนการแล้วมากกว่า

ในส่วนนี้จะเป็นบทสรุปสั้นๆ แต่ใจความสำคัญครบถ้วน เขียนประมาณ 1-2 หน้าเท่านั้น เป็นจุดที่คนจะอ่านกันมากที่สุด เพราะฉะนั้น ควรให้เวลาในการเขียนแผนธุรกิจโรงแรมนี้อย่างตั้งใจ

โดยเริ่มต้นจาก:

1.วิสัยทัศน์ของคุณ: ยกตัวอย่าง Disney วิสัยทัศน์ของพวกเขาคือ “การทำให้ผู้คนมีความสุข” ในขณะที่ Instagram คือ “เก็บภาพและแชร์ความรู้สึกไปสู่ผู้คนทั่วโลก” แล้ววิสัยทัศน์ที่กว้างไกลสำหรับธุรกิจขนาดเล็กของคุณคืออะไร?

2.ภารกิจของคุณ: อธิบายเป็นประโยคหรือย่อหน้าถึงเหตุผลการก่อตั้งของโรงแรมในปัจจุบัน: เพื่อให้แขกเห็นภาพว่าที่พักของคุณมีสิ่งที่พวกเขาต้องการหรือไม่ และสามารถตอบสนองความคาดหวังของผู้เข้าพักอย่างไร

3.เป้าหมายของคุณ: เป็นพาร์ทอธิบายจุดประสงค์และจุดมุ่งหมายที่คาดหวังให้ประสบความสำเร็จ โดยคำนวณออกมาเป็นตัวเลข เช่น มีอัตราการเข้าพักสูงถึง 90% และยอดขายทางเว็บไซต์เพิ่มขึ้น 25% ภายในสองปี เป็นต้น

ในส่วนนี้คุณสามารถใส่สัญลักษณ์ของแบรนด์ เช่น สี โลโก้ แบบอักษร และการออกแบบที่สื่อถึงธุรกิจของคุณได้เต็มที่เลย

จำไว้ว่า นี่คือส่วนที่สำคัญที่สุดของการเขียนแผนธุรกิจ เมื่อคุณเขียนเสร็จแล้ว ให้กลับมาถามตัวเองด้วย 2 คำถามนี้:

• อ่านแล้วกระตุ้นความรู้สึกตื่นเต้นและกระตือรือร้นภายในตัวคุณได้หรือไม่?
• บทความมีความน่าเชื่อถือและดึงดูดความสนใจไหม?

หากคำตอบคือไม่ แสดงว่ายังมีส่วนที่ต้องปรับเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น คุณต้องจับไอเดียความคิดให้ได้ตั้งแต่ตรงนี้และสร้างบางอย่างที่จะช่วยให้การตัดสินใจในอนาคตไปเป็นได้อย่างราบรื่น

วิเคราะห์แนวโน้มอุตสาหกรรมโรงแรม ตลาด และคู่แข่ง

มองภาพอุตหกรรมโรงแรมให้กว้างและเจาะลึกไปถึงการทำความเข้าใจการตลาดของคู่แข่งทางธุรกิจ จากนั้นลองคิดดูว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงจะเลือกมาใช้บริการโรงแรมของคุณมากกว่าตัวเลือกอื่นๆ

เริ่มจากการวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจโรงแรม

ธุรกิจโรงแรมของคุณเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมการบริการและการท่องเที่ยว ลองมองดูว่า กลุ่มงานวิจัยเล็กๆ เกี่ยวกับปัญหาและเทรนด์ต่างๆ ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมนี้หรือไม่? เช่น เทคโนโลยี เศรษฐกิจ การเมือง ปัญหาสิ่งแวดล้อม และปัญหาสุขภาพทั่วโลก สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมอย่างไร – โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมที่คล้ายกับของคุณ? มีสิ่งไหนที่ต้องระวังเป็นพิเศษบ้าง?

มาดูในส่วนของโรงแรมคู่แข่งกันกันต่อ

ใครคือคู่แข่งทางธุรกิจของคุณ? โฟกัสไปที่โรงแรมคู่แข่งใกล้เคียงภายในจังหวัดของคุณว่าตอนนี้เข้ากำลังทำอะไรอยู่บ้าง?

และคุณจำเป็นต้องสร้างกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน นักท่องเที่ยวกลุ่มไหนที่โรงแรมต้องการ? เป็นแนวครอบครัวที่มีเด็กๆ เดินทางเพื่อการพักผ่อนหรือเปล่า? หรือเป็นคู่รักที่มีฐานะกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนแสนสบาย? พยายามรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตั้งแต่ระดับการศึกษาไปถึงลักษณะนิสัย ไลฟ์สไตล์และนิสัยการใช้จ่ายเลย

ข้อมูลเชิงลึกของโรงแรมคู่แข่งและแขกผู้ใช้บริการจะนำคุณไปสู่หนึ่งในคำถามที่สำคัญที่สุดในการเขียนแผนธุรกิจ คือ จุดขายของโรงแรมคุณ (USP) คืออะไร? นี่แหละคือสิ่งที่คุณต้องหาคำตอบให้ได้ว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้โรงแรมของคุณแตกต่าง? ทำไมจุดขายนั้นถึงโน้มน้าวให้แขกเลือกใช้บริการที่พักของคุณได้? และอะไรคือสิ่งที่ทำให้โรงแรมของคุณโดดเด่นจากโรงแรมอื่นๆ?

การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงแรม

ในส่วนนี้จะช่วยตีกรอบจุดสำคัญและผลักดันให้โรงแรงของคุณโดดเด่นขึ้นมาได้ เพราะเป็นบทสรุปบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงแรมที่คุณเสนอต่อผู้เข้าพัก และสามารถใส่รูปสถานที่จริงแนบให้เห็นถึงสิ่งที่แขกจะได้สัมผัสเมื่อมาถึงโรงแรมของคุณ

ก่อนจะเริ่มเขียนส่วนนี้ ให้คุณโฟกัสไปที่:

• สถานที่ตั้งของโรงแรม (อยู่ในโซนอากาศร้อนหรือเปล่า? หากใช่ การกล่าวถึงสระว่ายน้ำควรอยู่ในอันดับแรกๆ ของลิสต์)
• ประเภทอาหารที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณชื่นชอบ (เช่น อาหารสำหรับกลุ่มคนรักการออกกำลังกาย? อาหารเช้าเพื่อสุขภาพห้ามลืมเลยล่ะ!)
• มุมมองของลูกค้าต่อสินค้าและบริการที่สนับสนุนความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม (คุณสามารถเพิ่มจุดนี้ลงไปในนโยบายโรงแรมได้หรือไม่?)
• งบประมาณของผู้เข้าพัก (ลองคิดดูว่า พวกเขาจะมีแนวโน้มจองห้องพักมากขึ้นไหม หากคุณมีนโยบายการยกเลิกและการคืนเงินที่ชัดเจน)
• โซเชียลมีเดีย (กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ของคุณเล่นโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มไหนมากกว่า? โพสต์เช็คอินจาก “Instr” จะช่วยกระตุ้นแขกได้ไหม? ตอบโจทย์การตลาดโรงแรมหรือเปล่า?)
• ขอบเขตและความกว้างใหญ่ของโรงแรม (มีห้องขนาดใหญ่ที่คุณสามารถเสนอให้เป็นสถานที่จัดการประชุมเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมหรือเปล่า?)

แผนดำเนินงานธุรกิจ, การบริหารจัดการ และการตลาด

การเขียนโครงสร้างว่าโรงแรมของคุณจะทำงานอย่างไร และจะสร้างรายได้ในแต่ละวันได้อย่างไร เป็นสิ่งสำคัญที่ควรนำมาพิจารณาร่วมกับ 4 ปัจจัยนี้:

แผนดำเนินงานโรงแรม

ในส่วนการดำเนินงานนี้ จะเกี่ยวกับการเลือกคนมาทำงานให้เหมาะสมกับแต่ละตำแหน่ง 

ดังนั้น คุณควรจัดทำข้อมูลในส่วนของงานหลักและความรับผิดชอบ และพิจารณาว่าคุณต้องการอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า จะต้องจ้างพนักงานมาช่วยไหม? จะต้องฝึกตัวเองด้านไหนเพิ่มเติมเพื่อรับผิดชอบงานบางส่วนได้บ้าง?

นโยบายและคู่มือโรงแรมแบบไหนที่คุณควรจัดทำ? คุณจะจัดตั้งกระบวนการเหล่านี้ท่ามกลางการจัดการคน, ซัพพลายเออร์, มาตรฐานการบริการ, และรายการสิ่งของได้อย่างไร?

การตลาดโรงแรม

กลยุทธ์การตลาดคือแผนที่จะช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ถูกเวลาด้วยใจความที่ถูกต้อง ดังนั้น ก่อนเริ่มคิดแผนการตลาดควรพิจารณาถึง 3 สิ่งนี้: คุณกำลังพยายามเข้าถึงใคร, ตอนไหนที่คุณควรเข้าหาพวกเขา, และข้อความที่คุณพยายามจะสื่อต่อคนเหล่านั้นคืออะไร

มาดูสิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อต้องสื่อข้อความไปยังกลุ่มเป้าหมายกัน:

• การโฆษณาทั้งแบบดั้งเดิม (เช่น นิตยสาร,วิทยุ,โทรทัศน์ เป็นต้น) และทางออนไลน์
• สร้าง Loyalty Program หรือก็คือการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีของทางโรงแรมและแขกในระยะยาว ทำให้ลูกค้าประจำกลับมาใช้บริการอยู่เรื่อยๆ
• Content marketing หรือการสร้างเนื้อหาเพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย
• โซเชียลมีเดีย
• ทำการตลาดผ่านอีเมล (Email marketing)
• รีวิวจากช่องทางออนไลน์
• SEO

เพื่อสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ควรมองไปยังคู่แข่งด้วยว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ และหันมาทำการตลาดบนโลกดิจิทัลให้มากขึ้น เพราะเป็นวิธีที่รวดเร็ว ประสิทธิภาพสูง ราคาไม่แพง และช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ

ช่องทางการโปรโมทห้องพัก

แน่นอนว่าช่องทางการโปรโมทเป็นที่ที่คุณจะขายและจัดการห้องพักทั้งหมด ไม่ว่าจะผ่านเว็บไซต์โรงแรมเอง เว็บจองห้องพัก OTAs หรือองค์กรที่ให้บริการด้านการท่องเที่ยว

คุณต้องตัดสินใจว่าจะวิธีไหนจะช่วยขายห้องพักได้ดีที่สุด โดยต้องคำนึงถึงทั้งมุมมองทางการเงินและด้านการดำเนินงาน และอีกสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือ การจองห้องพักซ้ำซ้อน อาจส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของแขกและธุรกิจได้ เราจึงแนะนำให้คุณพิจารณาระบบบริหารจัดการโรงแรมมาเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขายของคุณ เพื่อปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้นและหลีกเลี่ยงปัญหาที่น่าปวดหัวเหล่านั้น

รายได้และราคาห้องพักของโรงแรม 

ในท้ายที่สุดแล้วการทำธุรกิจก็ต้องมาคู่กับกำไร (หรืออย่างน้อยก็คุ้มทุน!) ดังนั้น คุณต้องตั้งเป้าหมายเพื่อเพิ่มรายได้ให้ตลอดรอดฝั่ง

ลองคำนึงถึงประเภทของห้องที่คุณมีและกำหนดเรทให้เหมาะสม พร้อมครอบคลุมถึงสิ่งต่างๆ เช่น ข้อเสนอพิเศษและส่วนลด นโยบายการยกเลิกและการคืนเงิน ตัวเลือกการชำระเงิน และ Rate Parity หรือการตั้งราคาห้องพักให้เท่ากันในทุกๆ แพลตฟอร์ม

หลังจากใช้ Little Hotelier เรามองเห็นการจองเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับตอนที่ไม่ได้ใช้ระบบ เราบอกต่อให้เจ้าของที่พักขนาดเล็กได้ลองใช้ Little Hotelier แล้วคุณจะรู้ว่ามันดีจริงๆ

Maneerat Wiriyarat,

Owner

Long N Joy Samui Apartment Service

อ่านเพิ่มเติม

หลักสำคัญสู่แผนธุรกิจทางการเงินของโรงแรม

ในส่วนนี้ คุณจะต้องเจาะลึกว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการก่อตั้งธุรกิจ (เงินลงทุน) วิธีที่คุณจะดำเนินธุรกิจต่อไปพร้อมกับผลกำไร และผลตอบแทนจากการลงทุนที่คาดการณ์ไว้ (ROI)

รวมถึง:

• โครงสร้างธุรกิจที่คุณเลือก (เช่น เป็นหุ้นส่วน หรือ บริษัท เป็นต้น)
• โมเดลธุรกิจ
• ต้นทุนและงบประมาณในการเริ่มต้นและการดำเนินการธุรกิจระยะยาว
• จัดการเกี่ยวกับสมุดบัญชีและภาษี
• ประกันและใบอนุญาตที่จำเป็นสำหรับธุรกิจโรงแรม
• ซัพพลายเออร์และพาร์ทเนอร์ที่สำคัญ

ซึ่งหัวข้อด้านบนนี้มีรายละเอียดค่อนข้างซับซ้อน ดังนั้น คุณอาจพิจารณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเมื่อเขียนแผนในส่วนนี้

แผนธุรกิจโรงแรม

จำไว้ว่าขั้นแรกที่จะเปลี่ยนฝันของคุณให้เป็นจริงคือการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรในรูปแบบของแผนธุรกิจ

หากคุณรู้สึกว่ายากเกินไป เราแนะนำให้ทำทีละส่วนและเริ่มด้วยส่วนที่คุณรู้สึกว่าแก้ไขง่ายที่สุดก่อน

เมื่อแผนธุรกิจโรงแรมเสร็จสมบูรณ์แล้ว นำมาใช้เพื่อ:

• สร้างรายการเป้าหมายและงานที่ต้องทำให้เสร็จสมบูรณ์เพื่อเริ่มต้นไอเดียด้วยความสำเร็จ
• จัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่าง ๆ ในแผนธุรกิจของคุณและกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจน
• แชร์แผนธุรกิจไปสู่ผู้คนที่อยู่ในความรับผิดชอบของคุณ

เมื่อไอเดียธุรกิจของคุณพัฒนาขึ้นหรือธุรกิจของคุณเติบโตขึ้นเรื่อยๆ คุณอาจต้องกลับมาอัปเดตแผนธุรกิจใหม่ ซึ่งการทบทวนแผนธุรกิจทุกๆ 6 เดือนหรือ 1 ปี เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ด้วยซ้ำ เพราะสามารถรู้ได้ว่าคุณกำลังติดตามใครอยู่และเป้าหมายของคุณคืออะไร พวกเขายังเป็นกลุ่มเป้าหมายที่คุณกำลังบริหารจัดการอยู่หรือไม่? หรือคุณจำเป็นต้องเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้ไปถึงจุดที่คุณต้องการได้ดีขึ้นหรือเปล่า?

อีกหนึ่งสิ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อคุณเตรียมแผนธุรกิจโรงแรมและนำไปใช้จริง คือ อิทธิพลของเทคโนโลยีสำหรับโรงแรม ซึ่งสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจของคุณได้อย่างแท้จริง ช่วยให้การทำงานในแต่ละวันง่ายขึ้น และเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจอย่างน่าพอใจ

---

ดำเนินการตามแผนธุรกิจโรงแรมไปพร้อมกับ Little Hotelier

ไม่ว่าคุณจะดำเนินธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กมาสักระยะหนึ่งแล้วหรือกำลังเริ่มต้นก็ตาม การทำตามแผนธุรกิจที่วางไว้ก็เป็นสิ่งที่ดีเสมอ และด้วยแพลตฟอร์มเทคโนโลยีแบบครบวงจรอย่าง Little Hotelier จะยิ่งช่วยให้การนำแผนธุรกิจโรงแรมของคุณไปใช้ได้ง่ายขึ้น และนี่คือผลประโยชน์ที่คุณจะได้รับจาก Little Hotelier:

• จัดการดำเนินธุรกิจโรงแรมของคุณตั้งแต่การจองห้องพักไปจนถึงการดูแลโรงแรมได้ในแพลตฟอร์มเดียว และยังช่วยประหยัดเวลาป้อนข้อมูลลงในระบบต่างๆ ได้อีกมากมาย
• ช่วยส่งเสริมการตลาดด้วยการเชื่อมต่อกว่า 450 เว็บไซต์จองห้องพักทั่วโลก พร้อมระบบอัปเดตราคาห้องพัก ห้องว่างอัตโนมัติเพียงไม่กี่คลิก
• จัดตารางจองห้องพักได้อย่างเป็นระบบ ลดปัญหาการจองซ้ำซ้อนผ่านระบบจองห้องพักประสิทธิภาพสูงที่จะช่วยให้แขกสามารถจองห้องพักกับคุณโดยตรง
• เพิ่มรายได้สูงสุดจากข้อมูลเชิงลึกที่จะช่วยรายงานประสิทธิภาพโรงแรมได้คุณทุกช่วงเวลาสำคัญและสามารถใช้ประโยชน์จากกำหนดราคาแบบไดนามิกเพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจของคุณได้