การจองซ้ำซ้อนและการจองเกินจำนวน คืออะไรสำหรับธุรกิจโรงแรม?

การจองซ้ำ หรือ Double booking คือ เหตุการณ์ที่มีลูกค้า 2 ท่าน จองห้องพักห้องเดียวกัน วันเดียวกัน ซึ่งเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบนี้ อาจทำให้เกิดความเครียดได้ทุกฝ่าย ทั้งตัวแขกและทางโรงแรมเลย

ในขณะที่ การจองเกินจำนวน หรือ Overbooking คือ จำนวนรายการจองทั้งหมดมีมากกว่าห้องว่างที่ทางโรงแรมมีอยู่ในช่วงเวลานั้นๆ ซึ่งหมายความว่า หากแขกทุกคนมีพยายามทำรายการจองตามที่วางแผนไว้ อาจเกิดกรณีจองซ้ำซ้อนได้เช่นเดียวกัน

ซึ่งโดยปกติแล้ว หากแขกพบว่าไม่มีห้องว่างสำหรับพวกเขาตามที่ต้องการ พวกเขาก็ยังคงไม่แฮปปี้เท่าไหร่นัก

และนี่คือความหมายของ การจองซ้ำซ้อน หรือ การจองเกินจำนวน ที่คุณน่าจะรู้ถึงความแตกต่างกันไปแล้ว มาเจาะลึกให้มากขึ้นกันดีกว่าว่า สาเหตุของปัญหาเหล่านี้ เกิดขึ้นได้อย่างไร มีวิธีป้องกันและวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง หากมีการจองซ้ำและจองเกินจำนวนภายใต้การดูแลโรงแรมของคุณ

ผลกระทบของการจองเกินจำนวนและการจองซ้ำซ้อน

ไม่มีอะไรส่งผลกระทบด้านลบต่อชื่อเสียงโรงแรม หรือ B&B ไปกว่าการต้องแจ้งแขกให้รับทราบว่าคุณไม่สามารถทำรายการห้องพักของพวกเขาได้ตามกำหนด เนื่องจากมีการจองซ้ำซ้อน!

ซึ่งเป็นโชคร้ายของกลุ่มโรงแรมขนาดเล็กที่มักจะมีประเด็นเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบชำระเงินมีปัญหาขณะดำเนินการ หรือ ระบบจัดการซับซ้อนจนเกินไปและไม่สามารถติดตามได้ว่าห้องพักไหน ถูกจองผ่านเว็บไซต์จองห้องพัก OTAs ไหน

ไม่ว่าความผิดพลาดจะเกิดขึ้นด้วยเหตุผลใดก็ตาม มันจะสะท้อนถึงความไม่เป็นมืออาชีพของโรงแรมและส่งผลกระทบต่อแขกให้เปลี่ยนใจไปพักที่อื่นแทนได้

เห็นภาพเลยว่าการจองซ้ำซ้อนและการจองเกินจำนวนเป็นฝันร้ายของเจ้าของโรงแรมและส่งผลกระทบเชิงลบต่อธุรกิจในระยะยาว (โดยที่ผู้ประกอบการบางรายใช้ในเชิงกลยุทธ์ได้)

ข้อเสียของการจองซ้ำซ้อนและการจองเกินจำนวน:

  • มอบประสบการณ์ที่ไม่ดีให้แก่แขกและนำไปสู่การบอกต่อเชิงลบ
  • ได้รับรีวิวด้านลบบนเว็บไซต์ที่มีอิทธิพลต่อผู้คนทางโซเชียลมีเดีย เช่น TripAdvisor หรือ Facebook
  • เสียรายได้ ซึ่งไม่ใช่แค่จากการจองห้องพักเท่านั้น แต่อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่อาจตามมาได้
  • ขาดความน่าเชื่อถืออาจเสียลูกค้าประจำ หากเกิดเหตุการณ์จองซ้ำกับลูกค้าเก่า
  • เสียเวลาและทรัพยากรเพื่อชดเชยแขกและแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น
  • มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหากับเว็บไซต์จองห้องพักออนไลน์ หากเกิดปัญหาเป็นประจำ

และยิ่งไปกว่านั้น อาจเกิดผลกระทบล้มตามๆ กันไปแบบโดมิโนหากการจองซ้ำซ้อนไปกดปุ่มไม่พอใจจนบานปลายรุนแรงขึ้นมา ลองนึกภาพหากแขกโวยวายเสียงดังหน้าเคาน์เตอร์ หากพวกเขาเขียนรีวิวแย่ๆ  หากพวกเขาบอกเพื่อนๆ และครอบครัวเกี่ยวกับประสบการณ์ไม่ดีที่เขาเจอมา คำพูดจะถูกแพร่ไปอย่างรวดเร็วว่าคุณดูแลระบบการจองอย่างไร้ประสิทธิภาพ – ซึ่งเป็นสิ่งสุดท้ายที่คุณอยากได้ยินจริงไหม

สาเหตุของการจองซ้ำซ้อนและการจองเกินจำนวน

มีเหตุผล 2-3 ข้อที่ก่อให้เกิดปัญหาการจองเกินและจองซ้ำ และไม่ได้เป็นความผิดของคุณเสียทีเดียว ซึ่งเรามั่นใจว่าคุณเองก็ทราบดีอยู่แล้ว

  • หากโรงแรมของคุณถูกจองเต็มแล้ว แต่ดันเกิดปัญหาที่จำต้องซ่อมแซม หรือปิดห้องกะทันหัน กรณีนี้จะทำให้แขกรู้สึกแย่ไปอย่างน่าเสียดาย
  • ปัญหาการจองเหล่านี้ มีโอกาสเกิดได้การจัดการตารางจองเองโดยไม่พึ่งระบบ ยิ่งถ้าหากคุณลงโฆษณาห้องพักไว้หลายๆ แพลตฟอร์มในเวลาเดียวกัน คุณอาจจะอัปเดตข้อมูลห้องว่างช้าเกินไปหากมีการจองห้องพักเดียวกันกับอีกแพลตฟอร์มหนึ่ง ซึ่งปัญหานี้จัดการได้ด้วยการแบ่งลงโฆษณาตามที่รับมือไหว แต่ก็เสี่ยงต่อการลดอัตราการเข้าพักที่คุณตั้งเป้าหมายไว้เช่นกัน
  • อีกหนึ่งสาเหตุของปัญหาการจองซ้ำซ้อน คือ การอัปเดตห้องว่างบนเว็บไซต์จองห้องพักไม่ถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น Booking.com หากคุณระบุว่าโรงแรมมีห้องว่าง 2 ห้อง ในขณะที่ความจริงแล้วมีห้องว่างเพียงห้องเดียว – และเมื่อทั้งสองห้องจะถูกจองพร้อมกัน ก็กลายเป็นปัญหาได้

ปิดท้ายด้วย การใช้ Overbooking เป็นกลยุทธ์ทางการตลาด โดยบางโรงแรมอาจเปิดให้จองล่วงหน้า ซึ่งมักจะรับจองเกินจำนวนห้องพักจริงเพื่อลดโอกาสเสียรายได้หากมีการยกเลิก แม้จะเป็นวิธีที่ไม่แนะนำสำหรับโรงแรมขนาดเล็ก แต่เราก็มีรายละเอียดอธิบายเพิ่มเติมให้อ่านในหัวข้อถัดไป

กลยุทธ์ Overbooking: ทำไมโรงแรมถึงรับจองเกินจำนวนห้องพัก?

บางครั้ง กรณีการจองเกินจำนวนห้องว่าง อาจเป็นเพราะอาจตัดเงินจากบัตรเครติดไม่ได้ หรือ อาจมีเหตุผลการจัดการรายได้อื่นๆ เข้ามา อย่างเช่น แขกไม่มีเช็คอิน หรือ ยกเลิกการจอง จึงทำให้ทางโรงแรมสูญเสียรายได้ไป การ Overbooking นั้น จึงเป็นการลดความเสี่ยงสูญเสียรายได้ทางหนึ่ง และยังสามารถรักษาจำนวนผู้เข้าให้เต็มได้ในแต่ละวัน

วิธีนี้เปรียบเสมือนการพนันอย่างหนึ่ง ที่ทางโรงแรมต้องเดิมพันว่าอาจเกิดปัญหาหากลูกค้าที่ยืนยันการจองแล้วเดินทางพักจริงๆ คุณต้องตัดสินใจดูเองว่าจะรับมือกับเหตุการณ์นี้อย่างไร แน่นอนว่าคุณเองก็คงอยากเดาให้ถูก และมีฐานข้อมูลเก่าๆ ที่จะช่วยประเมินความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคุณอาจต้องหันมาพึ่งระบบซอฟต์แวร์ที่เป็นโซลูชันสำหรับการจัดการรายได้ แต่ก็อาจเป็นการเพิ่มความใช้จ่ายที่คุณคงไม่ต้องการเท่าไหร่นัก

บางโรงแรมอาจมีทางออกในเคส Overbooking โดยการหาที่พักอื่นๆ พร้อมออกค่าใช้จ่ายให้แขกเป็นแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งบางโรงแรมเองถึงขึ้นเตรียมการ ทำข้อตกลงล่วงหน้าไว้เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ก็ยังคงมีความเสี่ยงด้านผลกระทบต่อแขกใหม่ๆ ในระยะยาว และทางโรงแรมก็ควรคำนึงถึงกลุ่มลูกค้าที่คุณจะย้ายที่พักด้วย ว่าจัดอยู่ในกลุ่มไหน เช่น ลูกค้าประจำ ลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง หรือ ลูกค้าที่พักค้างคืนเพียงครั้งเดียว

วิธีหลีกเลี่ยงการจองเกินจำนวนและป้องกันการจองซ้ำซ้อน

หากพูดถึงวิธีช่วยลดปัญหาจองซ้ำที่น่าปวดหัว พร้อมรักษาอัตราการเข้าพักได้อย่างยอดเยี่ยม! ทางออกที่ดีที่สุด คือ การใช้ซอฟต์แวร์คุณภาพเยี่ยมมาเป็นตัวช่วยจัดการช่องการจองห้องพักและลดความเสี่ยงการจองซ้ำให้คุ้มค่าที่สุด

การจัดการการจองโรงแรมและเลี่ยงปัญหาการจองซ้ำที่มีประสิทธิภาพนั้น จำเป็นจะต้องทำงานได้อย่างไร้รอยต่อและสร้างความประทับใจให้กับแขกได้อย่างเหมาะสม ด้วยการใช้ซอฟต์แวร์ระบบจัดการโรงแรมที่มีคุณภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างรอบคอบ เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถกู้คืนอัตราการเข้าพักให้กลับมาเต็มแม็กซ์อย่างไร้กังวลปัญหาจองซ้ำซ้อน

และนี่คือ 3 ทางออกที่จะช่วยให้คุณเลี่ยงปัญหาจองซ้ำซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ:

1.ใช้ระบบจัดการโรงแรมเพื่อเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายโดยไร้ความเสี่ยง

การอัปเดตข้อมูลหลายๆ เว็บไซต์จองห้องพักออนไลน์ มีความเสี่ยงสูงที่จะเจอปัญหาจองเกินจำนวนและจองซ้ำซ้อน เพราะต้องใช้เวลาในการเข้าเว็บนู้น ออกเว็บนี้ค่อนข้างนาน ทำให้เสียเวลาที่ควรนำไปสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า

ด้วยความถูกต้องแม่นยำ 95-97% ระบบจัดการโรงแรม เป็นวิธีที่จะช่วยประหยัดเวลาและจัดการช่องทางการขายในแต่ละเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การลงทุน กับระบบจัดการโรงแรมดีๆ ที่ใช้รูปแบบ Pooled Inventory (คือ ระบบจัดการส่วนกลางที่สามารถแชร์ข้อมูลห้องว่างทั้งหมดไปยังเว็บไซต์ต่างๆ ได้เท่ากัน) จะช่วยเพิ่มยอดการจองห้องพักได้จากหลายสิบหลายร้อยเว็บไซต์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายหรือความเสี่ยงเพิ่มเติม

ด้วยโมเดล Pooled Inventory นี้ เมื่อมีการจองห้องพักเกิดขึ้นจากแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่ง รวมถึงเว็บไซต์โรงแรมของคุณด้วย ข้อมูลทุกอย่างที่มีการเปลี่ยนแปลงจะถูกอัปเดตทันที

และโซลูชันครบวงจรอย่าง ระบบจัดการโรงแรม Little Hotelier ระบบที่ให้คุณสามารถลงโฆษณาพร้อมควบคุมการทำงานกว่า 450+ แพลตฟอร์มจองห้องพัก และด้วยระบบ PMS ตลอด 24 ชั่วโมง การจองที่หลั่งไหลเข้ามาจากทุกช่องทาง จะถูกซิงค์เข้าด้วยกัน และห้องว่างที่เหลือทั้งหมดจะถูกอัปเดตโดยอัตโนมัติเพื่อลดความเสี่ยงในการจองซ้ำซ้อนนั่นเอง

2.ใช้เทคโนโลยีการจองโดยตรงเพื่อประสบการณ์การใช้งานระดับมืออาชีพ

ด้วยการจองห้องพักออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพบนเว็บไซต์โรงแรมของคุณ ผู้เยี่ยมชมสามารถรู้ได้เลยว่า มีห้องว่างไหนแบบบ้าง และสามารถทำรายการจองได้ทันทีในขณะที่อยู่ในหน้าเว็บไซต์

นี่ไม่ใช่แค่วิธีรับจองที่ไม่มีค่าคอมมิชชั่นเท่านั้น แต่สามารถสร้างเส้นทางการจองที่ชัดเจน ซึ่งเป็นการหลีกเลี่ยงการจองซ้ำซ้อนได้อีกด้วย

และคุณยังสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการยกเลิกได้อีกด้วยหากแขกไม่มาเช็คอินหรือไม่ทำตามข้อตกลง

ระบบจองห้องพักยังช่วยให้คุณบันทึกข้อมูลการจองจากหน้าเว็บไซต์และเพจ Facebook พร้อมทั้งดูแลและสร้างความสัมพันธ์กับแขก และลดค่าคอมมิชชั่นได้อีกด้วย อีกทั้งระบบจัดการโรงแรมรุ่นใหม่ๆ ยังสามารถทำงานร่วมกับระบบงานหน้าเคาน์เตอร์ ซึ่งช่วยให้การทำงานลื่นไหลไม่มีสะดุดตั้งแต่ต้นจนจบเลย

3.ใช้ระบบหน้าเคาน์เตอร์เพื่อจัดการข้อมูลทุกอย่างได้ในที่เดียว

กลยุทธ์การจัดการช่องทางขายจะต้องติดขัดแน่นอน หากคุณไม่มีระบบศูนย์รวมที่สามารถจับตาดูทุกการเคลื่อนไหว และตรวจสอบให้แน่ใจถึงช่วงเวลาที่แขกจะมาถึง ไปพร้อมๆ กับการอัปเดตราคาห้องพัก และห้องว่างขณะที่มีสายเรียกเข้าหรือมีแขก walk-in เข้ามา

ด้วยระบบจัดการหน้าเคาน์เตอร์ของ Little Hotelier คุณสามารถเช็กห้องว่าง สร้างและแก้ไขข้อมูลการจอง ประกาศปิดห้อง และตรวจสอบแขกเช็คอิน-เช็คเอาท์ผ่านหน้าจอได้ตลอดเวลา

ทั้ง 3 ระบบที่กล่าวถึงนี้ ล้วนเป็นโซลูชันที่มีความปลอดภัยและใช้งานง่าย ทำให้คุณไม่ต้องพึ่งกลยุทธ์ Overbooking อีกเลย

แต่! มันจะไม่สมบูรณ์หากคุณไม่ได้ทำอะไรเลย! คุณยังคงต้องเข้าไปอัปเดตข้อมูลในระบบเมื่อได้รับการจองจากแขก walk-in หรือทางโทรศัพท์ – หากคุณนับจองวิธีนี้

นโยบายการจองเกินจำนวนของโรงแรมและค่าชดเชย

โดยปกติแล้ว โรงแรมมีอิสระในการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการจองห้องพักและการยกเลิก ซึ่งคุณควรกำหนดกำหนดนโยบายอย่างชัดเจน ละเอียด และครอบคลุมบนโปรไฟล์และเว็บไซต์โรงแรม วิธีนี้จะช่วยป้องกันความเสี่ยงในกรณีที่แขกร้องเรียนแบบไม่เป็นธรรม

ในกรณีของการจองซ้ำซ้อน คุณจำเป็นต้องแก้ปัญสถานการณ์ให้แขกของคุณแม้จะไม่มีข้อกฏหมายบังคับก็ตาม เพราะหากคุณไม่ใส่ใจ ธุรกิจโรงแรมที่ลงทุนลงแรงสร้างมาอาจจะอยู่ต่อได้ไม่นานก็ได้

ดังนั้น เมื่อมีการจองซ้ำซ้อนเกิดขึ้น มาลองตอบคำถามที่พบบ่อย 5 ข้อนี้ดู:

1.คุณมีห้องว่างอื่นๆ ประเภทเดียวกันหรือห้องอัปเกรดที่ดีกว่าไหม?

  • มี: เพื่อรักษาความประทับใจของแขกที่มีต่อโรงแรม ทางออกที่ดีที่สุดคือการเสนอห้องพัก 2 ตัวเลือกนี้ให้กับแขกโดยไม่มีค่าบริการเพิ่ม
  • ไม่มี: หากไม่มีห้องว่างเหลือแล้ว เป็นความรับผิดชอบของคุณที่จะต้องหาที่พักระดับเดียวกันหรือดีกว่าในเรทราคาที่ใกล้เคียง และคุณควรจัดการเรื่องการเดินทางไปยังที่พักใหม่ด้วย ในกรณีนี้ คุณไม่ควรให้แขกต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม เพราะการที่ห้องพักถูกจองซ้ำซ้อน ไม่ใช่ความผิดของพวกเขาแต่แรกอยู่แล้ว

2.หากมีการจองซ้ำ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมไหม?

หากแขกไม่ได้พักกับห้องที่พวกเขาเลือกไว้ ก็ไม่ควรเก็บค่าบริการใดๆ เพิ่ม ในบางประเทศ/อำนาจในชั้นศาล การพยายามเก็บค่าบริการเพิ่มอาจเป็นการขัดต่อข้อกฎหมายเลยด้วย ดังนั้นแล้ว พิจารณาการย้าย หรือ อัปเกรดห้องพักอื่นๆ ให้แขกแทนจะดีกว่า หรือหากไม่มีห้องว่างเหลือแล้ว การส่งแขกไปพักโรงแรมอื่นจะช่วยแก้ปัญหาได้ดีที่สุด

3.สามารถขอคืนเงิน หรือ ขอส่วนลดได้ไหม หากห้องที่เลือกมีการจองซ้ำ?

การจองซ้ำซ้อนเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ชวนให้แขกอารมณ์เสียได้มากเลยทีเดียว และทางโรงแรมมักจะยื่นข้อเสนอคืนเงืน หรือ ส่วนลดราคาห้องพัก หากแขกไม่ได้รับการบริการที่พวกเขาจ่ายเงินมาเต็ม 100% ซึ่งข้อกำหนดที่จะรับมือกับกรณีนี้จะแตกต่างกันไปตามนโยบายของโรงแรม และนี่คือสิ่งที่ควรพิจารณา:

  • แขกสามารถรับประสบการณ์ที่คาดหวังบางส่วนหรือทั้งหมดในห้องพักแบบอื่นได้หรือไม่?
  • การจองซ้ำซ้อนทำให้แขกไม่สะดวกหรือไม่สบายใจมากน้อยเพียงใด
  • ข้อกำหนดทางกฎหมายที่มีอำนาจในชั้นศาลของคุณคืออะไร ในแง่ของการให้บริการที่ตรงกับสิ่งที่โฆษณาและตกลงไว้
  • ช่วงเวลาที่มีการจองซ้ำซ้อน จองถึงวันไหน เต็มหมดหรือแค่บางวัน?
  • มีที่พักอื่นๆ ที่คล้ายกันหรือดีกว่าในบริเวณใกล้เคียงที่คุณสามารถส่งแขกไปแทนได้หรือไม่?

นี่คือคำถามที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจว่าจะกำหนดนโยบายโรงแรมแบบไหน เกี่ยวกับอัตราส่วนลดหรือการคืนเงินสำหรับการจองซ้ำซ้อน

หากคุณ ‘ย้ายแขกไปยังโรงแรมอื่น’ โดยไม่ได้ชดเชยอย่างเหมาะสม คุณอาจจะถูกฟ้องร้องตามหลังมาได้ และไม่มีใครต้องการให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ฉะนั้นแล้ว หากแขกต้องการให้คืนเงินเต็มจำนวน คุณควรให้ความร่วมมือ – แม้ว่าจะหมายถึงการที่คุณพลาดค่าคอมมิชชันจากที่พักอื่นๆ ก็ตาม

เพื่อสร้างความมั่นใจว่าการจองซ้ำซ้อนที่เกิดขึ้นจะยังคงควบคุมได้และอยู่ในเชิงบวกมากที่สุด อย่าลืมกล่าวขอโทษกับแขกด้วยความจริงใจ พวกปฏิบัติตัวด้วยท่าทางเห็นอกเห็นใจและเข้าใจถึงความไม่พอใจของแขกด้วย และถ้าเป็นไปได้ก็ควรเสนอส่วนลดสำหรับเข้าพักครั้งถัดไป จะช่วยให้คุณไม่ต้องเสียแขกคนสำคัญไปตลอดกาล!

4. มีวิธีไหนที่สามารถหลีกเลี่ยงการจองซ้ำซ้อนในอนาคตได้บ้าง?

การจองซ้ำซ้อนเป็นผลมาจากระบบทำงานไม่เสถียร และนี่คือวิธีลดความเสี่ยงที่คุณควรทราบ:

  • ระบบจัดการโรงแรม จะช่วยให้คุณลงโฆษณาห้องในหลายๆ แพลตฟอร์มภายในระบบเดียว และเมื่อมีคนจองห้องพักเข้ามา ระบบก็จะอัปเดตไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลง จะช่วยให้แขกคนอื่นๆ ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นปัจจุบันที่สุดอย่างง่ายดาย
  • ระบบจองห้องพัก จะช่วยให้คุณรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตได้อย่างปลอดภัย และผูกเข้ากับบัญชีธนาคารของคุณโดยตรง ทำให้คุณได้รับเงินทันทีและยังเป็นการช่วยเก็บค่าธรรมเนียมหากมีการยกเลิกหรือปรับเปลี่ยนการจองภายหลัง

เชื่อใจเรา! สิ่งที่กล่าวไปมีความเป็นไปได้แน่นอน หรือหากยังลังเล ลองอ่านบทสัมภาษณ์จากวิลล่าชั้นนำในเอเชียที่ไร้ปัญหาการจองซ้ำซ้อนด้วย Little Hotelier ดูได้ที่นี่เลย

5. สามารถย้ายไปพักโรงแรมอื่นได้ไหมหากมีการจองซ้ำซ้อน?

การหาสถานที่พักใหม่เป็นการตัดสินใจของคุณว่าจะมองหาที่พักเกรดเดียวกันหรือระดับพรีเมียมกว่า และยังคงครอบคลุมอยู่ในค่าใช้จ่ายที่แขกได้ชำระมาแล้วด้วย แล้วก็อย่าลืมจัดหารถและขนย้ายของไปยังจุดใหม่ด้วย จำไว้เสมอว่าในสถานการณ์การจองซ้ำซ้อน แขกไม่ควรต้องจ่ายอะไรเพิ่ม – เพราะไม่ใช่ความผิดพลาดของพวกเขา!

ป้องกันปัญหา Overbooking พร้อมเพิ่มรายได้โรงแรมด้วย Little Hotelier

การ Overbooking จะไม่มีกวนใจคุณอีกต่อไปหากคุณใช้ระบบ all-in-one โซลูชันยุคใหม่อย่าง Little Hotelier มาช่วยจัดการการจองโรงแรมคุณ เพราะเราสามารถบริหารช่องทางจอง, ห้องพัก, เช็กห้องว่างได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณรับรู้ข้อมูลโรงแรมแบบปัจจุบันทันด่วนแบบง่ายๆ เลย อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาการจองซ้ำซ้อน และการันตีได้เลยว่าแขกคนสำคัญของคุณจะได้รับประสงการณ์การเช็คอินที่รวดเร็วพร้อมกับฟีเจอร์เสริมอื่นๆ อีกมากมาย ดังนี้:

  • จัดสรรห้องว่าง: ระบบจะยื่นข้อเสนอห้องว่างให้กับแขกโดยอัตโนมัติโดยอิงจากการตั้งค่าที่คุณเซตไว้ตามเกณฑ์ต่างๆ เช่น ประเภทห้อง อัตราการเข้าพัก และความต้องการของผู้เข้าพัก ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมีห้องพัก 5 ห้อง และ 3 ห้องถูกจองไปเรียบร้อยแล้ว ระบบก็จะรับจองเฉพาะ 2 ห้องที่เหลือซึ่งจะแมทช์ให้ตรงกับความต้องการของแขกมากที่สุด 
  • จัดการช่องทางการขาย: เชื่อมต่อห้องว่างของคุณผ่านเว็บไซต์จองออนไลน์ในทุกช่องทาง เช่น Booking.com หรือเว็บไซต์โรงแรมของคุณเอง หมายความว่า ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ห้องพักของคุณได้รับการยืนยันการจองจากที่ไหนสักที่หนึ่ง ก็จะไม่มีการจองซ้ำซ้อนจากแพลตฟอร์มอื่นเกิดขึ้น! เพื่อให้เห็นภาพง่ายๆ หากห้องพัก A ถูกจองผ่าน Expedia ห้องว่างของแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง Airbnb ก็จะอัปเดตว่าห้องพัก A ถูกจองไปแล้วทันที เป็นการช่วยป้องกันปัญหารับจองซ้ำซ้อนจากแพลตฟอร์มที่ต่างกันนั่นเอง
  • การแจ้งเตือน: ตั้งค่าการแจ้งเตือนของ Little Hotelier จะช่วยให้คุณรู้ความเคลื่อนไหวผ่านแอปมือถือเมื่อการจองห้องพักเสร็จสิ้น หรือเมื่อเหลือห้องว่างน้อย อีกทั้งคุณยังสามารถสร้างและแก้ไขการจอง, เปิด-ปิดห้อง, เช็คอิน-เช็คเอาท์ และปรับตั้งค่าอื่นๆ ผ่านแอปพลิเคชันได้อีกด้วย เรียกว่สเป็นเครื่องมือสำหรับยุคดิจิทัลที่ช่วยให้คุณดูแลการจองและห้องว่างพร้อมป้องกันการจองโรงแรมเกินจำนวนไปพร้อมๆ กันเลย

By Dean Elphick

คณบดีเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดเนื้อหาอาวุโสของ Little Hotelier ซึ่งเป็นโซลูชันซอฟต์แวร์แบบ All-in-One ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ชีวิตของผู้ให้บริการที่พักขนาดเล็กง่ายขึ้น คณบดีได้สร้างการเขียนและสร้างเนื้อหาความหลงใหลของเขาที่มีต่อชีวิตการทำงานทั้งหมดของเขาซึ่งรวมถึงกว่าหกปีที่ Little Hotelier ผ่านเนื้อหาคณบดีมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การศึกษาแรงบันดาลใจความช่วยเหลือและในที่สุดความคุ้มค่าสำหรับธุรกิจที่พักขนาดเล็กที่ต้องการปรับปรุงวิธีการดำเนินงานของพวกเขา (และใช้ชีวิต)